Analog camera VS IP Camera

กล้อง Analog กับ IP ข้อดี ข้อเสีย และความแตกต่างระหว่างกล้อง Analog กับ IP

          กล้องวงจรปิด CCTV เป็นระบบการส่งภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด CCTV ที่ถูกติดตั้งไว้ในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะภายในอาคารหรือภายนอกอาคาร แล้วส่งภาพออกมาทางหน้าจอมอนิเตอร์ ซึ่งห้องที่ใช้สำหรับดูหน้าจอจะสามารถรับชมภาพทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากภาพที่กล้องแต่ละตัวมองเห็นตามตำแหน่งที่แตกต่างกันไป มักจะใช้สำหรับการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ต่างๆ เช่น บ้าน สำนักงาน ร้านค้า หรือสถานที่สาธารณะ

          โดยภาพรวมของระบบการทำงานของกล้องวงจรปิดว่าจะเลือกใช้ประเภทไหนนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนการติดตั้ง การใช้งานกลางวัน กลางคืน ภายใน หรือภายนอกสถานที่ ความสะดวกในการเดินสายสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือการเลือกใช้เครือข่ายไวไฟไร้สาย แล้วแต่ความต้องการใช้งานของแต่ละบุตคล

          ซึ่งใครที่กำลังจะติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV แล้วเริ่มค้นหาข้อมูล อาจจะพบว่ากล้องวงจรปิดโดยหลักแล้วในปัจจุบันมีอยู่ 2 ประเภท คือ กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อก (Analog Camera) และ กล้องวงจรปิดแบบไอพี (IP Camera) แล้วกล้องวงจรปิดทั้ง 2 ประเภทนั้น คืออะไร มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วมีข้อดี และข้อเสียอะไรบ้าง แล้วเราควรเลือกแบบไหนดี วันนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจกล้องวงจรปิดทั้ง 2 ประเภทกัน

 

กล้องวงจรปิด CCTV แบบ อนาล็อก (Analog Camera)

กล้องวงจรปิด CCTV แบบ อนาล็อก

          กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อก (Analog Camera) หมายถึง ระบบการเฝ้าระวังวิดีโอแบบดั้งเดิมที่ใช้กล้องอนาล็อกเพื่อจับภาพ และส่งสัญญาณวิดีโอ กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อกจะทำการส่งภาพผ่านสายโคแอกเซียลไปยัง DVR (Digital Video Recorder) ซึ่งจะประมวลผลและจัดเก็บฟุตเทจวิดีโอ ระบบกล้องวงจรปิดแบบอนาล็อกถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายปีและยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยทั่วไปจะใช้สำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง และที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกับการตรวจสอบพื้นที่สาธารณะ เช่น ธนาคาร ร้านค้าปลีก และที่จอดรถ 

          กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อกมีหลายประเภท และหลายสไตล์ ได้แก่ กล้องโดม กล้องทรงกระสุน และกล้อง PTZ แพน-เอียง-ซูม สามารถใช้ได้ทั้งภายใน และภายนอกอาคาร สามารถติดตั้งบนผนัง เพดาน หรือเสาได้ แม้ว่าระบบกล้องวงจรปิดแบบอนาล็อกจะมีข้อจำกัดบางประการในด้านคุณภาพของภาพ หรือความสามารถในการปรับขนาด แต่โดยทั่วไปแล้ว ระบบเหล่านี้มีราคาย่อมเยาและติดตั้ง และบำรุงรักษาได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับกล้อง IP (Internet Protocol) ซึ่งเป็นทางเลือก Digital ที่ใหม่กว่า

          กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อกจะจับภาพวิดีโอในสตรีมต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าจะบันทึกตลอดเวลาตราบเท่าที่เปิดเครื่อง วิดีโอนี้สามารถจัดเก็บไว้ใน Hard Drive ของเครื่อง DVR หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่นๆตัวอย่าง เช่น เทป หรือซีดี ขึ้นอยู่กับประเภทของ DVR ที่ใช้ ภาพที่บันทึกไว้สามารถเล่นในภายหลังเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบหรือสอบสวน โดยทั่วไปแล้วกล้อง CCTV แบบอนาล็อกจะจำกัดความละเอียดไว้ที่ 720 x 480 พิกเซลซึ่งเป็นความละเอียดมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม กล้องอนาล็อกบางรุ่นสามารถสร้างความละเอียดสูงได้สูงสุดถึง 960H ซึ่งเป็นรูปแบบ Wide screen ที่มีความละเอียด 960 x 480 พิกเซล

ระบบกล้องอนาล็อก

 

ข้อดี ข้อเสีย กล้องวงจรปิด CCTV แบบ อนาล็อก

          กล้องวงจรปิดแบบอนาล็อก เป็นกล้องวงจรปิดที่ใช้ระบบเชื่อมต่อสัญญาณแบบเดินสาย เพื่อเป็นอุปกรณ์นำสัญญาณ ซึ่งถือว่าเป็นระบบแบบเก่า แต่ก็ยังใช้งานกันอยู่ในหลายสถานที่ ขึ้นอยู่กับสถานที่ในการใช้งานด้วย เป็นระบบที่ใช้ตั้งแต่มีการคิดค้นระบบกล้องวงจรปิด CCTV เป็นระบบที่ใช้สาย สัญญาณ (Coax cable) เช่น สาย RG6 RG11

ข้อดี

  1. ต้นทุนต่ำ : กล้องอนาล็อก และเครื่องบันทึกวิดีโอดิจิทัล (DVR) โดยทั่วไปมีราคาถูก ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งขนาดเล็ก
  2. ติดตั้งง่าย : กล้องอนาล็อกติดตั้ง และกำหนดค่าได้ง่าย ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิคขั้นสูง
  3. ข้อกำหนดแบนด์วิธเครือข่ายต่ำ : กล้องอนาล็อกไม่ต้องการแบนด์วิธเครือข่าย เนื่องจากเชื่อมต่อโดยตรงกับ DVR ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการติดตั้งที่มีความจุเครือข่ายจำกัด
  4. ความเข้ากันได้กว้าง : ในระบบอนาล๊อก มีเพียงระบบ PAL และ NTSC เท่านั้น ทำให้กล้องอนาล็อกเข้ากันได้กับระบบรักษาความปลอดภัยรุ่นเก่าส่วนใหญ่ และรวมเข้ากับระบบที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้น
  5. มีความยืดหยุ่น : เนื่องจากว่ามีกล้องหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ ตั้งแต่ระบบเล็กไปถึงระบบ ใหญ่ที่มีอินฟราเรดตั้งตั้งมาพร้อมกับกล้องทำให้มีตัวเลือกสำหรับการใช้งานประเภทต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
  6. ปัญหาน้อย : เนื่องจากว่าระบบอนาล็อกถูกพัฒนามามากจนแทบจะเรียกได้ว่า อยู่ในช่วง สุดท้าย ของเทคโนโลยีของระบบอนาล๊อกแล้ว ทำให้ปัญหาต่างๆถูกแก้ไขไปจนหมด ปัญหาต่าง ๆ ของระบบ อนาล็อก จึงเกิดขึ้นน้อยมาก ช่างที่ทำการติดตั้งไม่ต้องมีความรู้ด้านเน็ตเวิร์ก ก็สามารถติดตั้งได้

ข้อเสีย

  1. คุณภาพของภาพต่ำ : กล้องอนาล็อกถูกจำกัดไว้ที่ความละเอียดมาตรฐาน ซึ่งอาจให้รายละเอียดไม่เพียงพอที่จะระบุตัวบุคคล หรือวัตถุในบางสถานการณ์ เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านสาย
  2. ความสามารถในการปรับขนาดที่จำกัด : ระบบอนาล็อกมีจำกัดในจำนวนกล้องที่สามารถเพิ่มลงในระบบได้ ซึ่งอาจทำให้ไม่เหมาะสำหรับการติดตั้งขนาดใหญ่
  3. การเข้าถึงระยะไกลแบบจำกัด : โดยทั่วไปแล้วระบบอนาล็อกไม่ให้การเข้าถึงระยะไกลสำหรับวิดีโอที่บันทึกไว้ ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการตรวจสอบระบบจากตำแหน่งระยะไกล
  4. ความสามารถในการวิเคราะห์ที่จำกัด : กล้องอนาล็อกไม่มีความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น การจดจำใบหน้าหรือการจดจำป้ายทะเบียนรถ ซึ่งอาจจำกัดการทำงานของระบบ
  5. ความปลอดภัย : ระบบอนาล็อกมีความปลอดภัยน้อย เนื่องจากว่าไม่มีการเข้ารหัสของข้อมูล ไม่ว่าใครก็ สามารถดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้

 

กล้องวงจรปิดระบบไอพี (IP CAMERA)

IP Camera

          กล้องวงจรปิดระบบไอพี (IP CAMERA) หมายถึง ระบบเฝ้าระวังวิดีโอดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ใช้กล้อง IP เพื่อจับภาพ และส่งวิดีโอวิดีโอผ่านอีเธอร์เน็ต หรือเครือข่ายไร้สาย กล้อง IP เป็นกล้องดิจิทัลการจับภาพวิดีโอ และส่งเป็นข้อมูลดิจิทัลผ่านเครือข่าย IP จากนั้นข้อมูลวิดีโอจะถูกประมวลผลและจัดเก็บไว้ใน NVR (Network Video Recorder) หรือคอมพิวเตอร์ 

          ระบบ IP CCTV นำเสนอข้อดีหลายประการ ได้แก่ ความละเอียดที่สูง ความสามารถในการปรับขนาดที่ดี และความสามารถในการเข้าถึงระยะไกลที่ดี มีความละเอียดตั้งแต่ 1080p ถึง 4K ซึ่งให้ภาพที่คมชัด และมีรายละเอียด นอกจากนี้ กล้อง IP ยังมีความยืดหยุ่น และปรับขนาดได้ เนื่องจากสามารถเพิ่ม หรือลบออกจากเครือข่ายได้ง่าย มี NVR ซึ่งสามารถขยายเพื่อรองรับกล้องได้มากขึ้น อีกประการหนึ่งของระบบกล้องวงจรปิด IP คือ ความสามารถในการเข้าถึงระยะไกลเพื่อเข้าถึงวิดีโอสด และวิดีโอที่บันทึกไว้ได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับธุรกิจหรือองค์กรที่ต้องตรวจสอบสถานที่หลายแห่ง ระบบ IP CCTV ใช้โปรโตคอลเครือข่าย เช่น TCP/IP, HTTP และ FTP เพื่อส่งข้อมูลวิดีโอจากกล้อง IP ไปยัง NVR หรือคอมพิวเตอร์ กล้อง IP สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายผ่านอีเธอร์เน็ตแบบมีสาย หรือการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบไร้สาย ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในแง่ของการจัดวางกล้อง นอกจากการจับภาพวิดีโอแล้ว กล้อง IP ยังสามารถจับภาพและส่งสัญญาณเสียงตลอดจนข้อมูลอื่นๆ เช่น การตรวจจับการเคลื่อนไหว และสัญญาณเตือนภัย สิ่งนี้ทำให้ระบบวิดีโอเฝ้าระวังที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งสามารถตรวจจับ และแจ้งเตือนภัยคุกคามความปลอดภัยได้แบบเรียลไทม์

          ระบบกล้องวงจรปิด IP เป็นกล้องที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง รวมถึงการจดจำใบหน้า การจดจำป้ายทะเบียนรถ และการนับจำนวนคน ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับร้านค้าปลีก สนามบิน และพื้นที่ที่มีการจราจรคับคั่งอื่นๆ ระบบกล้องวงจรปิด IP เป็นโซลูชันกล้องวงจรปิดที่มีประสิทธิภาพ และยืดหยุ่น ซึ่งให้ฟุตเทจวิดีโอคุณภาพสูง ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง และการผสานรวมกับระบบเครือข่ายอื่นได้ดี

ระบบ IP Camera

ข้อดี ข้อเสีย กล้องวงจรปิด CCTV แบบ IP Camera

          กล้องวงจรปิด ไอพี IP Camera เป็นระบบกล้องที่ต้องตั้งค่า IP ผ่านระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยในการกำหนดตัวตนสำหรับการแสดงภาพ สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบเดินสาย LAN และไวไฟ แล้วยังถือว่าเป็นกล้องที่ใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดด้วย เป็นระบบกล้องวงจรปิด CCTV ที่นำมาใช้แทนระบบ Analog ซึ่งระบบ IP จะส่งสัญญาณในรูปแบบ Digital ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัด ไม่เกิดการสูญหายของสัญญาณ คือถ้ามีการเดินระบบผิดพลาด ภาพก็จะไม่แสดงเลย แต่ถ้าเดินระบบได้ถูกต้องภาพจะมีความชัดตามคุณภาพของกล้องที่ส่งภาพมา ซึ่งต่าง กับระบบ Analog ที่ภาพจะมีทั้ง ภาพชัด ภาพไม่ชัด และภาพหาย สายสัญญาณที่ใช้ในระบบ Digital ส่วนมากจะเป็นสาย Cat5

ข้อดี

  1. คุณภาพของภาพสูง : กล้อง IP ให้ความละเอียดและคุณภาพของภาพที่สูง ทำให้ได้ภาพที่ละเอียด และชัดเจน เนื่องจากเป็นระบบ Digital ทำให้สามารถข้ามข้อจำกัดจาก 576 TVL ไปเป็น 1080p หรือ “Hidefinition” ทำให้ได้ภาพที่มี ความละเอียด “สูงมาก” 
  2. ความสามารถในการปรับขยายได้มากขึ้น : ระบบกล้อง IP สามารถรองรับกล้องจำนวนมากขึ้น และขยายได้ง่าย
  3. ติดตั้งง่าย : กล้อง IP สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายผ่านอีเทอร์เน็ตแบบใช้สาย หรือเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบไร้สาย ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในแง่ของการจัดวางกล้อง นอกจากนี้ยังทำให้ง่ายต่อการเพิ่ม หรือย้ายกล้องตามต้องการ
  4. การเข้าถึงระยะไกล : กล้อง IP สามารถเข้าถึงได้จากระยะไกลผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้ใช้สามารถดูภาพสด หรือวิดีโอที่บันทึกไว้ได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  5. การวิเคราะห์ขั้นสูง : กล้อง IP สามารถติดตั้งความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น การจดจำใบหน้า การจดจำป้ายทะเบียนรถ และการนับจำนวนคน ทำให้มีความสามารถในการเฝ้าระวังด้วยวิดีโอที่ซับซ้อนมากขึ้น
  6. การผสานรวมกับระบบอื่นๆ : ระบบกล้อง IP สามารถรวมเข้ากับอุปกรณ์ และระบบเครือข่ายอื่นๆ ได้ เช่น ระบบควบคุมการเข้าออก สัญญาณเตือนอัคคีภัย และระบบอัตโนมัติในอาคาร ทำให้มีโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมและรวมศูนย์มากขึ้น
  7. ความปลอดภัยสูง : เนื่องจากการทำงานบนของระบบ Digial สามารถที่จะ Backup ข้อมูลบน Server ได้ตลอดเวลา ทำให้ Hacker ไม่สามารถ “ดัก”เอาข้อมูลระหว่างทางได้

ข้อเสีย

  1. ต้นทุนสูงขึ้น : โดยทั่วไปแล้วกล้อง IP และเครื่องบันทึกวิดีโอเครือข่าย (NVR) มีราคาแพง
  2. ข้อกำหนดแบนด์วิธของเครือข่ายที่สูงขึ้น : กล้อง IP ต้องการแบนด์วิธของเครือข่ายมาก สร้างภาระให้กับเครือข่าย เนื่องจากใช้ Brandwidth สูงมาก ตั้งแต่ 500 kbps ถึง 1.5 Mbps ทำให้ระบบทำงานหนัก ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาด้านประสิทธิภาพ
  3. ความซับซ้อนทางเทคนิค : กล้อง IP ต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคในการติดตั้ง และกำหนดค่า ซึ่งอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิคขั้นสูง
  4. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ : กล้อง IP มีความเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์หากไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของเครือข่ายทั้งหมด
  5. ใช้ข้ามยี่ห้อไม่ได้ : เนื่องจากระบบถูกพัฒนาจากหลายรายทำให้มีมากกว่า 1 มาตราฐาน จึงไม่สามารถใช้กล้องที่มี Protocal ต่างกันเพื่อติดต่อกันได้ หรือให้เข้าใจง่ายๆคือ ข้ามยี่ห้อไม่ได้ นั่นเอง

 

ความแตกต่างระหว่างสัญญาณ Analog และ Digital

ความแตกต่างระหว่างสัญญาณ Analog และ Digital

          สัญญาณอนาล็อก (Analog Signal) หมายถึง สัญญาณที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือการเคลื่อนที่ของ ข้อมูลแบบต่อเนื่อง (Continuouse Data) โดยสัญญาณจะมีขนาดไม่คงที่ มีการเปลี่ยนแปลงขนาดของ สัญญาณแบบค่อยเป็นค่อยไป และจะมีลักษณะเป็นเส้นโค้งต่อเนื่องกันไป ยกตัวอย่างเช่น การที่เราโยน ก้อนหินลงน้ำ บนผิวน้ำเราจะเห็นว่า น้ำจะมีการเคลื่อนตัวเป็นคลื่น กระจายออกเป็นวงกลมรอบจุดที่หินจม ระดับคลื่นจะสังเกตุได้ว่าเริ่มจากจุดกลางแล้วขึ้นสูง แล้วกลับมาที่จุดกลางแล้วลงต่ำ แล้วกลับมาที่จุดกลาง เป็นลักษณะนี้ติดต่อกันไป แต่ละครั้งของวงรอบเราเรียกว่า 1 Cycle โดยการเคลื่อนที่ของสัญญาณ อนาล็อก (Analog Signal) นี้ จะมีระยะทางและเวลาเป็นตัวกำหนดด้วย จึงทำให้มีผลต่อการส่งสัญญาณ อนาล็อก (Analog Signal) ส่วนใหญ่จึงสามารถถูกรบกวนได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นจากสิ่งแวดล้อมภายนอก หรือจากตัวของระบบอุปกรณ์เอง เพราะสัญญาณที่ส่งออกไปนั้นจะเป็นสัญญาณจริง และเมื่อถูกรบกวนก็อาจ จะทำให้คลื่นสัญญาณมีการเปลี่ยนไป จึงทำให้ผู้รับหรือปลายทางนั้นมีการแปลความหมายผิดพลาดได้ เช่น สัญญาณเสียง เป็นต้น

          สัญญาณดิจิตอล (Digital Signal) หมายถึง สัญญาณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแบบไม่ต่อเนื่อง (Discrete Data) ที่มีขนาดแน่นอนซึ่งขนาดดังกล่าวอาจกระโดดไปมาระหว่างค่าสองค่า คือ สัญญาณ ระดับสูงสุด และสัญญาณระดับต่ำสุด ซึ่งสัญญาณดิจิตอลนี้เป็นสัญญาณที่คอมพิวเตอร์ใช้ในการทำงาน หรือติดต่อสื่อสารกัน กล่าวได้ว่าสัญญาณดิจิตอลก็คือ การที่เรานำเอาสัญญาณ Analog (อนาล็อก) มา แปลงให้อยู่ในรูปแบบของตัวเลข (0,1) โดยการแปลงสัญญาณนี้ต้องอาศัยวงจรประเภทหน่ึงที่เรียกว่า A To D (A/D) หรือ Analog To Digital converter โดยวงจร A/D หลังจากนั้น ก็จะได้สัญญาณ Digital ออกมาเป็นสัญญาณในรูปแบบของตัวเลข (0,1) นั่นเอง โดยจะเป็นสัญญาณที่เกิดจากแรงดันของ ไฟฟ้าจะมีอยู่ 2 ค่าคือ 0 = Min และ 1 = Max โดยค่า Min จะมีแรงดันไฟฟ้าอินพุต อยู่ที่ประมาน 0 โวลต์ และ Max จะมีแรงดันไฟฟ้าอินพุต อยู่ที่ประมาน 5 โวลต์ ดังนั้นสัญญาณชนิดนี้มนุษย์เรา จึงไม่สามารถสัมผัสหรือรับรู้ได้เลย และเมื่อได้เป็นสัญญาณ Digital ออกมาแล้ว จึงทำการส่งข้อมูลไปยัง ผู้รับหรือปลายทาง ทางฝั่งผู้รับหรือปลายทางจะต้องมีตัวแปลงสัญญาณจาก Digital ให้กลับเป็น Analog อีกครั้ง โดยผ่านตัวแปลง คือ D To A (D/A) หรือ Digital To Analog converter

 

ความแตกต่างของกล้องวงจรปิด CCTV แบบอนาล็อค และ ไอพี

ความแตกต่างของกล้องวงจรปิด CCTV แบบอนาล็อค และ ไอพี

  1. ด้านความละเอียดของภาพ : กล้องอนาล็อก จะมีการใช้สัญญาณอนาล็อกเพื่อส่งข้อมูลวิดีโอ สัญญาณวิดีโอจะถูกส่งจากกล้องไปยังอุปกรณ์บันทึก หรือจอภาพผ่านสายโคแอกเชียว ต่างจากกล้อง IP ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายโดยใช้สายอีเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเข้าถึงได้จากระยะไกลผ่านอินเทอร์เน็ต ดังนั้นกล้องอนาล็อกจึงมักจะมีคุณภาพของภาพที่ต่ำกว่ากล้อง IP
  2. ด้านต้นทุน : กล้องอนาล็อกและเครื่องบันทึกวิดีโอดิจิทัล (DVR) โดยทั่วไปมีราคาถูกกว่ากล้อง IP และเครื่องบันทึกวิดีโอเครือข่าย (NVR) ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าสำหรับการติดตั้งขนาดเล็ก
  3. ด้านการติดตั้ง : กล้องอนาล็อกติดตั้งและกำหนดค่าได้ง่ายกว่ากล้อง IP ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคในการติดตั้ง และกำหนดค่า ซึ่งจำเป็นต้องใช้ผู้ที่มีความรู้ด้านเทคนิคขั้นสูง
  4. ด้านข้อกำหนดแบนด์วิธเครือข่าย : กล้องอนาล็อกไม่ต้องการแบนด์วิธเครือข่าย เนื่องจากเชื่อมต่อโดยตรงกับ DVR ต่างจาก กล้อง IP ที่ต้องการแบนด์วิธของเครือข่ายมากกว่า
  5. ด้านความเข้ากันได้ : กล้องอนาล็อกเข้ากันได้กับระบบรักษาความปลอดภัยรุ่นเก่าส่วนใหญ่ ทำให้รวมเข้ากับระบบที่มีอยู่ได้ง่าย แต่กล้อง IP จะสามารถเข้ากันได้กับอุปกรณ์และระบบเครือข่ายอื่นๆที่ทันสมัยได้มากกว่า เช่น ระบบควบคุมการเข้าออก สัญญาณเตือนอัคคีภัย และระบบอัตโนมัติในอาคาร ทำให้มีโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมและรวมศูนย์มากขึ้น
  6. ด้านการใช้กล้องต่างยี่ห้อ : กล้องอนาล็อก มีเพียงระบบ PAL และ NTSC เท่านั้น ทำให้สามารถเลือก กล้องต่างยี่ห้อมารวมในระบบเดียวกันได้ สำหรับกล้อง IP ใช้ข้ามยี่ห้อไม่ได้ เนื่องจากระบบถูกพัฒนาจากหลายรายทำให้มีมากกว่า 1 มาตราฐาน จึงไม่สามารถใช้กล้องที่มี Protocal ต่างกันเพื่อติดต่อกันได้ 
  7. ด้านการเข้าถึงระยะไกล : กล้องอนาล็อกมีการเข้าถึงระยะไกลแบบจำกัด โดยทั่วไปแล้วระบบอนาล็อกไม่ให้การเข้าถึงระยะไกลสำหรับวิดีโอที่บันทึกไว้ ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการตรวจสอบระบบจากตำแหน่งระยะไกล ต่างจากกล้อง IP ที่สามารถเข้าถึงได้จากระยะไกลผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้ใช้สามารถดูภาพสดหรือวิดีโอที่บันทึกไว้ได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

          กล้อง IP ถือว่ามีความก้าวหน้ามากขึ้น และมีคุณสมบัติและคุณภาพของภาพที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับกล้องอนาล็อก แต่อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วกล้องวงจรปิดเหล่านี้ยังมีราคาแพงกว่ากล้องอนาล็อกอีกด้วย เมื่อเราทราบถึงกล้องวงจรปิดทั้ง 2 ประเภท ข้อดี ข้อเสีย รวมถึงข้อแตกต่างในภาพรวมของกล้องวงจรปิด CCTV ทั้งสองแบบนี้แล้ว การเลือกใช้งานก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการใช้งานของเรา และความเหมาะสมของสถานที่ในการติดตั้งกล้อง ทางเลือกระหว่างกล้องอนาล็อก และกล้อง IP ทั้งหมดนี้จะขึ้นอยู่กับความต้องการในการเฝ้าระวัง และงบประมาณของผู้ใช้เอง และถ้าหากคุณกำลังมองหากล้องวงจรปิด คุณภาพสูง และมีให้เลือกหลายหลายชนิด ตามความเหมาะสมที่คุณต้องการ คุณสามารถติดต่อสอบถาม หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Success Network and Communication

โทร : 02-973-1966

Admin : 063-239-3569

Email : info@success-network.co.th

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *