HDD ใน cctv

การคำนวณฮาร์ดดิสก์ HDD สำหรับระบบกล้องวงจรปิด

          เวลาเราติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) และมีเครื่องบันทึก (DVR) ภาพซึ่งบรรจุ Harddisk (HDD) สำหรับบันทึกภาพไว้ในตัว จะสามารถบันทึกภาพได้สูงสุดนานกี่วัน แล้วเราจะต้องเลือกและดูปัจจัยใดเป็นองค์ประกอบในการเลือกความจุของ Harddisk เพื่อให้สามารถบันทึกวนไปได้นานที่สุด โดยไม่ต้องมาบันทึกทับซ้ำกับของเดิมบ่อยๆ สามารถบันทึกภาพไปเรื่อยๆได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่หน่วยความจำไม่เต็มเร็ว และต้องคอยมาเซ็ตบ่อยๆ เรามาดูกันว่าเราจะมีวิธีการคำนวณ หรือดูความจุว่าจะบันทึกภาพได้นานแค่ไหน

 

HDD คืออะไร

          Harddisk คืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่บรรจุข้อมูล แบบไม่ลบเลือน โดย HDD ย่อมาจาก Hard Disk Drive มีลักษณะเป็นจานโลหะซึ่งจะหมุนอย่างรวดเร็วเมื่อทำงาน เมื่อติดตั้งเข้ากับตัวคอมพิวเตอร์สามารถทำได้ผ่านการต่อเข้ากับเมนบอร์ด อีกทั้งยังสามารถต่อใช่งานจากภายนอกได้ผ่านทางสาย USB ซึ่งทำให้การใช้ฮาร์ดดิสสะดวกยิ่งขึ้นเมื่อไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ของตนเอง 

          ขนาดของฮาร์ดดิสปัจจุบันนิยมกันอยู่ 2 ขนาดคือ 3.5 นิ้ว ที่นิยมใช้ในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วไปและ 2.5 นิ้ว ที่จะใช้กับ Notebook ความเร็วในการบันทึกข้อมูลของ Harddisk ใช้หน่วยเป็น RPM (Revolutions Pes Minute) ในปัจจุบันฮาร์ดดิสมีความเร็วในการบันทึกข้อมูลตั้งแต่ 5400RPM ที่เป็นความเร็วมาตรฐานของฮาร์ดดิสทั่วไปจนไปถึง 15,000RPM มีเป็นฮาร์ดดิสความเร็วสูงสำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ความจุของฮาร์ดดิสคือเนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูล ยิ่งมีความจุมากก็ยิ่งบันทึกข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น ฮาร์ดดิสในขณะนี้ก็มีความจุตั้งแต่ 500GB ไปจนถึง 20TB

 

HDD หรือฮาร์ดดิสก์มีกี่แบบ

          ประเภทของฮาร์ดดิสก์ที่สามารถหาซื้อได้ในปัจจุบัน จะเป็นฮาร์ดดิสก์ที่เป็นแบบจานหมุน ซึ่งยังสามารถแบ่งตามประเภทการต่อพ่วงได้เป็น 4 ชนิด ได้แก่ IDE, E-IDE, SCSI, และ SATA

  1. แบบ IDE Hard disk – เป็นฮาร์ดดิสก์แบบเก่าที่เชื่อมต่อกับตัวเครื่องด้วยสายแพขนาด 40 เส้น สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้ 8.3 MB/วินาที ปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้ว
  2. แบบ E-IDE Hard disk – เป็นฮาร์ดดิสก์ที่พัฒนาต่อมาจากแบบ IDE ซึ่งจะเชื่อมต่อกับตัวเครื่องด้วยสายแพขนาด 80 เส้น สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ดีขึ้น แต่ก็เลิกใช้ไปแล้วเช่นกัน
  3. แบบ SCSI Hard disk – เป็น hard disk ที่ต้องใช้การ์ด SCSI ควบคุมการทำงาน สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วถึง 320 MB/วินาที และมีราคาค่อนข้างสูง จึงนิยมนำไปใช้กับเครื่อง Server มากกว่าการใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไป
  4. แบบ SATA Hard disk (Serial ATA) – เป็น hard disk ที่ใช้งานแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากมีคุณภาพในการรับส่งข้อมูลสูง 150 MB/วินาที รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย และมีราคาที่ไม่แพง จึงนิยมนำมาใช้เป็นมาตรฐานสำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วไป

          ไดร์ฟทั้งสองชนิดนี้ระหว่าง HDD และ SSD มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยคือเรื่องราคาที่หลายคนจะมองว่าตัว SSD นั้นต้องมีราคาแพงกว่าฮาร์ดดิสและมีเนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูลที่น้อยกว่า แต่ก็แลกมากับประสิทธิภาพของการอ่านเขียนข้อมูลที่สูงกว่าฮาร์ดดิสถึง 10 เท่าส่วน HDD ถึงจะทำงานได้ช้ากว่าแต่ก็มีข้อดีคือราคาที่ถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับ SSD ที่มีความจุใกล้เคียงกัน เมื่อเทียบความเร็วกันแล้วหลายคนที่เป็นสายตัดต่อหรือสายเกมเมอร์ก็จะเลือก SSD กันเป็นส่วนใหญ่ 

 

ความแตกต่างระหว่าง HDD และ SSD 

Harddisk drive

          HDD เองก็เหมาะกับสายเก็บข้อมูลเพราะได้ต้องการความเร็วในการบันทึกข้อมูลที่สูงมากนัก ในส่วนความทนทานและความเสถียรการออกแบบของ SSD นั้นไม่มีชิ้นส่วนที่เป็นจานหมุนทำให้มีความเสถียรและทนทานกว่าอีกทั้งยังได้เรื่องของความเงียบเข้ามาอีกด้วยและเมื่อต้องนำไปใช้บนโน๊ตบุ๊คที่ต้องพกพาไปไหนมาไหนตลอด

          SSD ก็จะมีความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลมากกว่า ซึ่งหากพูดถึงเรื่องอายุการใช้งานตัว HDD นั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า SSD เพราะว่าตัวของ SSD จะทำงานด้วยการเขียนแล้วลบข้อมูลซ้ำๆ ทำให้ตัวไดรฟ์เสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ 

          ถึงแม้เราจะจัดการข้อมูลและดูแล SSD อย่างดีอายุเฉลี่ยของ SSD ก็จะอยู่ได้เพียง 5-6 ปีโดยประมาณต่างกับ HDD ตราบใดที่ฮาร์ดแวร์ยังคงสภาพอยู่ จานหมุนยังหมุนได้ก็เท่ากับว่าฮาร์ดดิสยังสามารถใช้บันทึกข้อมูลอยู่ได้ทำให้ HDD เสื่อมสภาพลงช้ามากเมื่อเทียบกับ SSD โดยฮาร์ดดิสอาจมีอายุการใช้งานได้ถึง 10-15 ปี

 

วิธีเลือก HDD ให้ตอบโจทย์การใช้งาน

          สำหรับคำถามที่ว่าฮาร์ดดิสก์มีกี่แบบ และเราจะเลือก HDD ให้ถูกใจและเหมาะกับการใช้งานได้อย่างไรนั้น เรามีเคล็ดลับเล็ก ๆ สำหรับการเลือก HDD มาฝากกัน

  • เลือกชนิด เพราะฮาร์ดดิสก์มีหลายแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสก์สำหรับการใช้งานทั่วไป ฮาร์ดดิสก์สำหรับกล้องวงจรปิด หรือฮาร์ดดิสก์คุณภาพสูงที่ไว้สำหรับใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์ การเลือกชนิดให้ตรงกับการใช้งานจะช่วยให้เราประหยัดงบประมาณลงไปได้
  • เลือกความจุ การประมาณปริมาณการใช้งานของเราและเลือกฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเลือกฮาร์ดดิสก์ไม่ให้เกิดปัญหาเมมเต็มได้ง่าย ๆ แต่ก็ไม่เปลืองงบประมาณมากเกินไปเช่นกัน ปัจจุบันขนาดของ HDD ควรเลือกอย่างน้อย 1TB ขึ้นไป
  • เลือกความเร็วการทำงาน ความเร็วหมุนรอบของฮาร์ดดิสก์ปกติอยู่ที่ 5400RPM-7200RPM แต่หากยิ่งฮาร์ดดิสก์มีความเร็วการหมุนรอบมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งอ่านและเขียนได้เร็วขึ้นเท่านั้น
  • เลือกหน่วยความจำแคช เป็นเหมือนบัฟเฟอร์ ที่เป็นการเรียกข้อมูลขึ้นมาเป็นความจำชั่วคราว เพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลากลับไปเรียกข้อมูลนั้นขึ้นมาใหม่ ยิ่งหน่วยความจำแคชมากก็จะยิ่งทำงานได้เร็วขึ้นเท่านั้น
  • เลือกขนาด ปัจจุบันฮาร์ดดิสก์มีขนาด 3.5 นิ้วและ 2.5 นิ้ว ซึ่งใช้งานต่างกันตรงที่ขนาด 3.5 นิ้วมีไว้ใช้สำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และ ขนาด 2.5 นิ้วมีไว้ใช้สำหรับโน๊ตบุ๊คเป็นหลัก

 

วิธีการคำนวณ HDD สามารถบันทึกภาพที่กล้องวงจรปิดได้นานแค่ไหน

HDD ที่เลือกใช้ในกล้องวงจรปิด

          ฮาร์ดดิสก์มักถูกใช้คู่กับกล้องวงจรปิด เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด ซึ่งระบบกล้องวงจรปิดของเรา สามารถดูภาพย้อนหลังได้กี่วัน ขึ้นอยู่กับฮาร์ดดิสก์ที่เลือกมาใช้งานคู่กัน 

          เวลาที่เราเลือกซื้อ Harddisk กล้อง ต้องเลือกซื้อความจุเท่าไร ถึงจะเพียงพอตามความต้องการของเรา  ซึ่งเราสามารถคำนวณ Harddisk โดยวิธีคำนวนคือการคำนวนผ่านเว็บไซต์ Seagate เพื่อให้สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อ HardDisk หรือนำไปใช้ตั้งค่าปรับปรุงระบบกล้องวงจรปิด

          การใช้งานเว็บคำนวณ Harddisk สามารถเข้าผ่านเว็บไซต์นี้ https://www.seagate.com/as/en/video-storage-calculator/ เพื่อเข้าสู่เว็บไซต์คำนวณ Hard disk ของ Seagate 

          โดยในปัจจุบัน การคำนวนผ่านเว็บไซต์ต่าง ๆ ดังที่ยกตัวอย่างข้างต้น เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่สามารถทำความเข้าใจที่มาของวิธีการคำนวนได้ดังนี้

          องค์ประกอบหลักๆ ในการคำนวณค่าว่าจะบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดได้นานแค่ไหน พิจารณา ประเภทของกล้อง ความละเอียดของกล้องวงจรปิด ชนิดของไฟล์ที่บันทึกลงเครื่องบันทึกภาพ ค่าบิทเรทและความจุของ Hard disk ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการบ่งชี้ว่า จะใช้บันทึกภาพได้ระยะเวลานานแค่ไหน

          โดยทั่วไปแล้ว ถ้าจะแบ่งคร่าวๆ ตามจำนวนการใช้งาน 1 กล้อง ต่อ 1 เครื่องบันทึกภาพ(DVR) จะสามารถแบ่งตามความจุ ความละเอียดที่บันทึก และจำนวนวันใช้งานได้ดังนี้

  • ความละเอียด 720p 1280×720 (2048 kbps) frame rate 25 จะสามารถบันทึกภาพต่อเนื่องได้นานถึง 48 วันโดยเฉลี่ย
  • ความละเอียด FullHD 1920×1080 (4096 kbps) frame rate 25 จะสามารถบันทึกภาพต่อเนื่องได้นานถึง 24 วันโดยเฉลี่ย เลือกสัก 6 TB ดูจะสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องเลย
  • ความละเอียด 720p 1280×720 (2048 kbps) frame rate 25 จะสามารถบันทึกภาพต่อเนื่องได้นานถึง 291 วันโดยเฉลี่ย
  • ความละเอียด FullHD 1920×1080 (4096 kbps) frame rate 25 จะสามารถบันทึกภาพต่อเนื่องได้นานถึง 145 วันโดยเฉลี่ย
    • กล้องความละเอียด 1 ล้านพิกเซล ใช้พื้นที่ 25 GB ต่อ1 กล้อง/ 1 วัน
    • กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ใช้พื้นที่ 30 GB ต่อ1 กล้อง/ 1 วัน

          เมื่อนำมาคำนวณกับความจุ Hard disk จะได้สูตรนี้ : จำนวนพื้นที่จัดเก็บจากความละเอียดของกล้อง (พิกเซล) x จำนวนกล้อง ได้ค่าความจุจำนวนกล้องแล้ว นำมาคิดกับจำนวนความจุ Hard disk

          โดยจำนวน Hard disk 1 TB = 1000 GB นำ 1000 – 10% = 900 GB

          900 ÷ ค่าความจุจำนวนกล้อง = จำนวนวันโดยเฉลี่ย

 

เช่น กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (35 GB) 2 ตัว เท่ากับความจุ 35×2 = 70 GB/วัน จากนั้นนำค่า Hard disk 1 TB = 1000 GB >> 100 – 10% = 900 // 900 ÷ 70 = 12.8 ( 12 วัน)

ผลลัพธ์คือ ใช้กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล 2 ตัว บันทึกภาพบนความจุ Hard disk 1 TB จะสามารถบันทึกภาพได้นาน 12 วันโดยเฉลี่ย


โปรแกรมตรวจสอบ HDD

          เนื่องจากฮาร์ดดิสก์ได้เก็ยข้อมูลที่มีค่าของเราไว้ เราจึงต้องมีวิธีการตรวจสอบสภาพอุปกรณ์เก็บข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ (Hard Disk) และคอยเเจ้งเตือนก่อนที่มันจะพัง นอกเหนือจากการสำรองข้อมูลออกมาบ่อย ๆ เป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด การตรวจสุขภาพฮาร์ดดิส ก็เป็นสิ่งสำคัญ 

          เลยขอนำโปรแกรมสำหรับการตรวจเช็คสภาพ โปรแกรมนี้มีชื่อว่า CrystalDiskInfo CrystalDiskInfo เป็นโปรแกรมสำหรับตรวจเช็คสภาพ HDD, SSD ที่ใช้งานอยู่ 

          ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมได้ที่ลิ้งค์นี้ได้เลย https://crystalmark.info/en/download/ 

 

          ถึงแม้จะมีสูตรในการคิดคำนวน ในการเลือกความจุของ Harddisk เพื่อให้สามารถบันทึกวนไปได้นานที่สุด แต่ในปัจจุบันสามารถหาแอพฯ ในการคำนวณระยะเวลาที่กล้องวงจรปิดบันทึกได้ จะทำให้ง่ายและรวดเร็วกว่า ซึ่งควรศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ หรือทางที่ดีควรปรึกษาช่างเฉพาะทาง ที่รับติดตั้งและดูแลระบบ CCTV โดยเฉพาะ ให้ช่างแนะนำ และตั้งค่าการบันทึกภาพ เพื่อจะได้ไม่พลาดทุกเหตุการณ์สำคัญ  ป้องกันได้อย่างต่อเนื่องด้วยความจุและจำนวนวันที่คุ้มค่าที่สุดของ Harddisk เครื่องบันทึกภาพ

ถ้าคุณอ่านบทความนี้จบแล้ว แล้วกำลังมองหาอุปกรณ์ HDD สำหรับกล้องวงจรปิด คุณสามารถติดต่อเราเพื่อขอรายละเอียดอุปกรณ์เพิ่มเติม หรือขอคำปรึกษาฟรีๆ ได้ที่

Success Network and Communication

Tel : 02-973-1966

Admin : 063-239-3569

E-mail : info@success-network.co.th

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *