การใช้งานโทรศัพท์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือห้างร้านทั่วไป ยังคงมีการใช้งานโทรศัพท์แบบพื้นฐาน ถึงแม้ว่าหลายๆ องค์กรก็มีการใช้โทรศัพท์มือถือเข้ามาร่วมใช้ในการติดต่อเช่นกัน ในปัจจุบันเราจะมีช่องทางสื่อสารในเชิงธุรกิจมากมาย ทั้ง E-Mail , LINE หรือ Facebook แต่ยังไงการโทรศัพท์ก็เป็นพื้นฐานของการสื่อสารในการทำงานอยู่ดี ด้วยความรวดเร็วการติดต่อ ต้นทุนในการติดต่อไม่เยอะ แพร่หลายจนใครๆ ก็สามารถติดต่อได้ หรือเอกลักษณ์ที่เป็นการติดต่อ 2 ทางในเวลาจริง ผู้ส่งสารเข้าใจได้เดี๋ยวนั้นเลยว่าสารที่ส่งออกไปผู้รับเข้าใจหรือไม่เข้าใจ ก็เป็นคีย์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ทำให้เราเข้าใจได้ว่าระบบโทรศัพท์ภายในบริษัทยังคงมีความจำเป็น และเมื่อเวลาผ่านไปการมาถึงของอินเทอร์เน็ต ทำให้การเชื่อมต่อด้วยวงจรโทรศัพท์ธรรมดาได้ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้น เพื่อให้ระบบโทรศัพท์ให้ทำงานได้สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ภายใต้ชื่อเทคโนโลยีว่า IP PBX นั้นเอง
IP PBX คืออะไร?
IP PBX (Internet Protocol – Private Branch Exchange) เป็นบริการระบบตู้สาขาโทรศัพท์ผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต Network ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานทดแทนระบบตู้สาขาโทรศัพท์แบบ Analog (PABX) โดยที่ผู้ใช้บริการไม่ต้องลงทุนติดตั้งระบบตู้สาขา IP-PBX สามารถใช้งานได้เทียบเท่ากับตู้สาขาแบบเก่า IP-PBX มีฟังก์ชั่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกัน โดยใช้หมายเลขภายใน (Extensions Number) การโทรออกไปยังปลายทางอื่นๆ การโอนสาย การดึงสาย การพักสาย รวมไปถึงระบบเสียงตอบรับอัตโนมัติ IVR(Interactive Voice Response) หรือ Auto-Attendant ผู้ใช้เพียงแค่มีอุปกรณ์สำหรับใช้งาน VoIP เช่น IP Phone หรือ Internet Phone Adapter หรือ ATA (analog telephone adapter) โดยทำการเชื่อมต่อ กับระบบ Cloud Call Center Thailand ผ่านวงจร IP Network หรือวงจรอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการรายใดก็ได้
P PBX เป็นวิวัฒนาการของระบบโทรศัพท์ จากเดิมที่จะต้องมีการเดินสายโทรศัพท์ (RJ11) มาเป็นโลกใหม่ที่เรียกว่า IP PBX ที่ใช้สาย LAN (RJ45) เป็นการรวมเอาเทคโนโลยีของโทรศัพท์พื้นฐาน กับการโทรในระบบ VoIP (Voice Over IP เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านทางระบบเครือข่าย รองรับทั้ง Internet, Intranet) ทำให้โทรศัพท์มีความสามารถมากขึ้น ช่วยประหยัดค่าโทรศัพท์ได้มาก โดยเฉพาะการโทรระหว่างประเทศ และมีการติดตั้งที่ง่ายดายรวดเร็วอีกด้วย

ความสามารถของ IP-PBX
แต่เดิมนั้น PBX จะทำงานเชื่อมโยงกันด้วยวงจรโทรศัพท์เป็นหลัก ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายในการใช้งานสูงตามค่าโทรศัพท์ และไม่ยืดหยุ่นพอที่จะรองรับผู้ใช้จำนวนมากและงานแบบใหม่ๆ ได้ แต่ด้วยเทคโนโลยี IP ทำให้เราสามารถเปลี่ยนเสียงเป็นข้อมูลแล้วส่งผ่านอินเทอร์เน็ตได้ และทำให้ IP-PBX มีความสามารถเพิ่มขึ้นคือ
- เชื่อมอุปกรณ์ IP-PBX ผ่านอินเทอร์เน็ต
ความสามารถหนึ่งของเซิร์ฟเวอร์ IP-PBX สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ คือเชื่อมต่อตู้ IP-PBX เข้าหากันผ่านอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า One-look Networking ทำให้รองรับสายนอกสูงสุด 600 คู่สาย และคู่สายภายในอีก 1000 คู่สาย เพื่อรองรับความต้องการขององค์กรได้ - เชื่อมสำนักงานต่างสาขาผ่านเน็ต โดยไม่เสียค่าโทร
เมื่อข้อมูลเสียงต่างๆ สามารถถูกแปลงเป็นข้อมูลได้ อุปกรณ์ IP-PBX จึงสามารถเชื่อมต่อระหว่างกันได้แม้จะไม่ได้อยู่ในออฟฟิศเดียวกัน ผู้ใช้จึงสามารถกดหมายเลขภายในบริษัทเพื่อให้ไปดังในอีกสาขาได้ การสื่อสารระหว่างกันจึงราบลื่น และประหยัดค่าใช้จ่ายตัวอย่าง เช่น IP-PBX สำหรับองค์กรทั่วไปที่รองรับสายภายนอกได้ 142 คู่สาย และสายภายในอีก 192 คู่สาย ก็สามารถคุยกับอุปกรณ์ ตัวอื่นๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อเชื่อมโยงสายของผู้ใช้ต่างสาขาได้ - สมาร์ทโฟนก็สามารถโทรออก-รับสายในสำนักงานได้
ระบบ IP-PBX สามารถโทรออก-รับสายผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ทำให้โทรศัพท์มือถือของผู้ใช้กลายเป็นหนึ่งในเลขหมายภายในบริษัท แม้พนักงานที่เกี่ยวข้องจะอยู่ต่างประเทศก็ยังสามารถติดต่อเรื่องงานได้อย่างไม่ติดขัด ขอแค่เชื่อมอินเทอร์เน็ตได้ก็พอ - ไม่ทิ้งความสามารถเดิมของตู้ PBX และทำให้ดีขึ้นด้วย Unified Communication
ความสามารถดั่งเดิมของอุปกรณ์ชุมสายโทรศัพท์ คือการโต้ตอบกับผู้โทรเข้าและเสนอทางเลือกในการติดต่อ ที่เราคุ้นเคยในชื่อ IVR (Interactive Voice Response) เช่น กด 3 ติดต่อแผนกบัญชี ความสามารถเหล่านี้ก็ยังมีใน IP-PBX แถมยังเสริมด้วยความสามารถใหม่ๆ เช่น ให้ระบบแจ้งจำนวนคิวที่รอสายกับผู้ติดต่อ และให้ผู้ติดต่อฝากข้อความเสียงทิ้งไว้ได้เมื่อไม่ต้องการรอสาย แถมยังสามารถตั้งสายสำคัญหรือ VIP Call ให้โอนเข้ามาก่อนได้ด้วย
นอกจากนี้ระบบยังสามารถบันทึกการสนทนาระหว่างพนักงานกับผู้ติดต่อ เพื่อประเมินการให้บริการแบบเดียวกับ Call Center และเชื่อมต่อกับอีเมลเพื่อแจ้งเตือนข้อความเสียงเข้า หรือแฟกซ์ใหม่เข้ามาในระบบได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการควบรวมการสื่อสารของบริษัท (Unified Communication) ให้สามารถจัดการได้จากชุดอุปกรณ์เดียว - สามารถใช้งานกับระบบเดิมได้
การใช้งาน IP-PBX นั้นไม่จำเป็นต้องทิ้งอุปกรณ์เชื่อมต่อเดิมทั้งหมด แต่ระบบใหม่ก็ยังรองรับทั้งโทรศัพท์ในระบบอนาล็อก และดิจิทัลที่เคยมีอยู่ในออฟฟิศ เพื่อให้การลงทุนเปลี่ยนระบบ PBX เดิมเป็น IP-PBX ทำได้ง่ายขึ้น

อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน IP-PBX
- IP Phone ต้องโทรศัพท์ที่รองรับการใช้งานแบบ IP
- Softphone โปรแกรมที่ใช้สำหรับโทรโดยตรงผ่านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งผ่านสมาร์ทโฟน
- Videophone โทรศัพท์ที่รองรับการมองเห็นหน้า
- อุปกรณ์ในการแปลงสัญญาณ VoIP เป็น Analog
อุปกรณ์ VoIP Gateway ที่ใช้ร่วมกับ IP-PBX
อุปกรณ์ VoIP Gateway คืออุปกรณ์ที่ใช้แปลงสัญญาณจากระบบหนึ่งไปเป็นอีกระบบหนึ่ง เช่น เปลี่ยนจากระบบอะนาล็อกไปเป็นระบบดิจิตอล หรือ เปลี่ยนจากระบบดิจิตอลไปเป็นอะนาล็อก ซึ่งขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มต่างๆของโครงข่ายที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร โดยมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
- FXS Gateway
คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างตู้ IP-PBX กับหัวโฟนที่เป็นระบบอะนาล็อกแบบเดิม ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้กับผู้ใช้ที่ยังอยากจะใช้หัวโฟนแบบเดิมอยู่ โดยอุปกรณ์ตัวนี้จะช่วยในเรื่องการประหยัดค่าใช้่จ่ายในการซื้อหัวโฟนที่เป็นระบบ IP และเรื่องของการเดินสายสัญญาณใหม่อีกด้วย ซึ่งตัวอุปกรณ์เองสามารถรองรับได้ตั้งแต่ 4 พอร์ต จนถึง 32 พอร์ต หรือมากกว่านั้น - FXO Gateway
คืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมระหว่างตู้ IP-PBX กับผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานอะนาล็อก เช่น TOT, True ซึ่งเป็นโครงข่ายสายทองแดง ที่ใช้ในการโทรออก โดยอุปกรณ์สามารถรองรับได้ตั้งแต่ 4 พอร์ต จนถึง 16 พอร์ต หรือมากกว่านั้น - GSM Gateway
คืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมระหว่างตู้ IP-PBX กับผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยอุปกรณ์นี้สามารถใช้ได้ทั้งในการรับสายเข้า และโทรออกผ่านเลขหมายโทรศัพท์มือถือ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ยืดหยุ่นสะดวกต่อการใช้งาน ไม่ยึดติดกับข่ายสายสัญญาณภายนอก โดยอุปกรณ์สามารถรองรับได้ตั้งแต่ 1 พอร์ต จนถึง หลายร้อยพอร์ต - E1 PRI Gateway
คืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมระหว่างตู้ IP-PBX กับผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน โดย E1 นั้นเป็นวงจรโทรศัพท์พื้นฐานที่ 1 วงจรสามารถมีหมายเลขโทรศัพท์ได้มากถึง 30-100 หมายเลข และนิยมนำหมายเลขที่จำง่ายๆมาทำเป็นหมายเลขนำหมู่ โดยอุปกรณ์ตัวนี้ก็จะแปลงสัญญาณจาก E1 ให้สามารถสื่อสารกับตู้ IP-PBX ได้ โดยสามารถรองรับได้ตั้งแต่ 1 วงจร จนถึงหลายๆวงจร

ประโยชน์หรือข้อดีระบบ IP-PBX
- รองรับการย้ายเบอร์ได้โดยย้ายเครื่องโทรศัพท์ไปห้องไหนก็ได้
- รองรับการใช้งานผ่านระบบไร้สาย Wi-Fi
- รองรับการใช้งานระบบ Video Call โทรแบบเห็นหน้า
- รองรับการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ VoIP อื่นๆ
- รองรับการพัฒนาในอนาคตเพราะระบบเป็นซอฟต์แวร์
- รองรับการเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูลได้
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโทรผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
- ประหยัดงบประมาณในการเดินสายโทรศัพท์
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อ Card Extentions ในกรณีที่มีการเพิ่มคู่สาย FXO, FXS ในอนาคต
- ลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร
- มีระบบความปลอดภัยสูงกว่า
- สามารถเชื่อมต่อกันผ่านทางระบบเครือข่ายหรือ IP ได้
ข้อเสียของระบบ IP-PBX
- ราคาอุปกรณ์สูงกว่าระบบโทรศัพท์ทั่วไป สายแลนแพงกว่าสายโทรศัพท์
- ใช้ไฟฟ้าในการทำงาน ทำให้มีปัญหาเวลาไฟดับ
- ต้องติดตั้งเป็นระบบเครือข่าย หรือระบบแลน
- อาจจำเป็นต้องใช้ผู้ชำนาญการในการตั้งค่าระบบ

โดยสรุปแล้วระบบ IP PBX เป็นระบบโทรศัพท์ที่ใช้งานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ นำโทรศัพท์มาเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการโทรทางไกล เพราะสามารถโทรผ่านอินเตอร์เน็ตในรูปแบบ VoIP รองรับการสื่อสารด้วยข้อความ วีดีโอและเสียง สามารถปรับเปลี่ยนหรือย้ายตำแหน่งของเบอร์โทรได้สะดวก รวดเร็วกว่า
ถ้าคุณอ่านบทความนี้จบแล้ว แล้วเห็นถึงความสำคัญของระบบเครือข่าย IP PBX และกำลังมองหาอุปกรณ์สำหรับการทำระบบ IP PBX คุณสามารถติดต่อเราเพื่อขอรายละเอียดอุปกรณ์เพิ่มเติม หรือขอคำปรึกษาฟรีๆ ได้ที่
Success Network and Communication
Tel : 02-973-1966
Admin : 063-239-3569
E-mail : info@success-network.co.th